๑. พระพุทธเจ้าเป็นอวตารของฮินดู
ทฤษฎีนี้ยังฝังรากลึกในคนอินเดียโดยทั่วไปโดยเฉพาะชาวฮินดู แต่ชาวซิกซ์ คริสเตียน หรือมุสลิมหรือเชนกลับไม่เชื่อเรื่องนี้ ความจริงไม่ใช่เฉพาะพุทธศาสนาเท่านั่นที่ฮินดูต้องการรวมหัวรวบหาง ทั้งเชนและซิกซ์เองก็ถูกชาวฮินดูถือว่าเป็นสาขาหนึ่งของฮินดูเช่นกัน ความเชื่อนี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่จะเผยแพร่พุทธศาสนาในแดนมาตุภูมิ เพราะถ้าถือว่าพระพุทธเจ้าเป็นอวตารองค์หนึ่งของฮินดูแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องไปนับถือศาสนาพุทธใหม่ เพราะเป็นอันเดียวกันอยู่แล้ว
๒. องค์กรสงฆ์อินเดียไม่เข้มแข็ง
เนื่องจากคณะสงฆ์และพุทธศาสนาในอินเดียถูกทำลายไปยาวนาน ถึง ๘๐๐ ปีมากกาว่าอายุของประเทศไทยเราเสียอีก เมื่อฟื้นฟูขึ้นมาใหม่จึงต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป การเผยแพร่พุทธศาสนาจะอาศัยสงฆ์อินเดียจึงเป็นเรื่องยาก เพราะหาผู้มีความรู้ได้น้อย ขาดการอุปถัมภ์ บางรูปกิริยามารยาทไม่นำพาต่อการเลื่อมใส ตำราที่สึกษาก็ยังมีน้อย วัดที่จะจำพรรษาก็ยังไม่ค่อยมี จึงเป็นเรื่องลำบาก
๓. ชาวฮินดูต่างยึดมั่นในศาสนา
จุดหมายของการเผยแพร่พุทธศาสนาในอินเดียก็คือต่อชาวฮินดูอันเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ คงไม่สามารถเผยแพร่ต่อชาวมุสลิมหรือเชนได้ แต่เมื่อวิเคราะห์ดูแล้ว ชาวฮินดูไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือเศรษฐีต่างยึดมั่นในคำสอนและประเพณีทางศาสนาอย่างเคร่งครัด ศาสนาและประเพณีสามารถครอบคลุมวิถีชีวิตของพวกเขาได้อย่างลึกซึ้ง การที่ไปเผยแพร่ให้พวกเขามานับถือศาสนาใหม่ จึงเป็นเรื่องยากพอสมควร
๔. พระสงฆ์เถรวาทไม่งดเนื้อสัตว์
การถือมังสวิรัติคือ เว้นจาการทานเนื้อ เป็นเรื่องที่ชาวอินเดียฮินดูทำอย่างเข็มงวด และพวกเขาตั้งแนวคิดไว้ว่าพระในศาสนาพุทธเอง ก็คงเว้นการฉันเนื้อซึ่งเป็นประเพณีมาตั้งแต่พระเจ้าอโศกมหาราช แต่เมื่อมาเห็นว่านักบวชในศาสนาพุทธโดยเฉพาะฝ่ายเถรวาทยังฉันเนื้อหรือบางองค์สูบบุหรี่อยู่ พวกเขาก็เบือนหน้าหนี ความศรัทธาเลื่อมใสก็คงไม่เกิด การเว้นจากการทานเนื้อและบุหรี่จึงเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับที่จะทำศรัทธาที่ยังไม่เกิดให้เกิดขึ้นในสังคมอินเดีย
๕. ขาดผู้สอนที่อดทนทุ่มเทอย่างจริงจัง
ผู้ที่จะเป็นพระธรรมทูต เพื่อเผยแพร่ในอินเดียต้องมีความเสียสละอดทนกับสภาพอากาศที่เลวร้าย อาหารที่ไม่ถูกปาก นิสัยใจคอคนที่แตกต่าง ต้องมีความประพฤติดี ต้องอดทนต่อคำส่อเสียด คำด่าขอางพวกนอกศาสนา นอกจากนั้นยังสามารถปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นบางอย่างได้เหมือนกับบาทหลวงชาวคาทอลิค ซึ่งประสบความสำเร็จสามารถเปลี่ยนชาวอินเดียมานับถือศาสนาคริสต์เกือบ ๒๒ ล้านคนในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการฟื้นฟูพุทธศาสนาในอินเดีย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จมากบ้างน้อยบ้างปัจจุบันการเปลี่ยนศาสนามานับถือพุทธศาสนายังมีอยู่ต่อมาทั้งที่นาคปูร์ เดลี และพุทธคยา เช่น วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๔๕ ชาวฮินดูวรรณะต่ำก็ได้หันเปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนาที่พุทธคยาราว ๒๐๐ คน โดยมี ท่านปรัชญาศีล อดีตเลขานุการคณะกรรมการดูแลพระเจดีย์พุทธคยาเป็นผู้ให้ศีลและรับเข้าในศาสนา การเปลี่ยนศาสนาของพวกเขาได้รับการประณามจากชาวฮินดูวรรณต่ำที่เดลลีเปลี่ยนศาสนาโดยขอใช้บริเวณสนามกีฬาเป็นที่ชุมนุม แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจนสุดท้ายต้องอาศัยสวนสาธารณะเป็นต้น การหันเปลี่ยนมานับถือพุทธศาสนาของพวกเขาโดยมากเพียงเพื่อหวังยกระดับ ยกฐานะของตนเองให้สูงขึ้นในสังคมอินเดีย เพราะพวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ถูกรังเกียจเหยียดหยาม และไม่ได้รับการเหลียวแลมานาน แม้ว่าพวกเขาเหล่านี้จะเป็นคนชั้นต่ำ แต่ก็เป็นการเพิ่มปริมาณผู้นับถือพุทธศาสนาได้พอสมควร
ที่มา : หนังสือประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย เขียนและรวบรวมโดยพระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ พระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๙ ,
http://www.dhammathai.org/buddhism/india/index.php,7/กันยายน/2554.
ประวัติศาสตร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
จิตติเทพ เว็บบล็อก